เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นของญี่ปุ่น หลายๆ คนมักนึกถึง ออนเซนญี่ปุ่น หรือบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ เพราะในญี่ปุ่นมีแหล่งออนเซ็นมากมายแทบจะทุกพื้นที่เลยก็ว่าได้ คุณสมบัติของออนเซ็นแต่ละแห่งก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ทั้งสองช่วยรักษาอาการปวด รักษาโรคต่างๆ บำรุงผิวพรรณ ให้เปล่งปลั่ง หรือจะแช่ให้คลายหนาวก็ได้ ในฤดูหนาวนักท่องเที่ยวชอบมาก วันนี้เราได้รวบรวมแหล่ง
ออนเซ็นที่ใครมาญี่ปุ่นต้องห้ามพลาด มาดูกันดีกว่าว่าแหล่งออนเซ็นไหนดีและที่ห้ามพลาดอย่างชีวิตต้องลองแช่สักครั้ง ไปกันเถอะ
1.ฮาโกเน่ ออนเซ็น (Hakone Onsen)
ถ้าพูดถึงฮาโกเนะ สิ่งแรกที่นึกถึงก็ต้อง แช่ออนเซ็น ญี่ปุ่น ส่วนตัว เพราะมีน้ำร้อนจำนวนมากผุดขึ้นมาก่อน ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ออนเซ็นแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเนะที่มีอายุมากกว่า 400,000 ปี สิ่งที่ทำให้เป็นที่นิยมคือทำเลที่ตั้งใกล้โตเกียว ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ออนเซ็นที่สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นได้อีกด้วย โดยเฉพาะในฤดูชมดอกซากุระ ความสวยไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะมันสวยมาก
ที่นี่มีน้ำพุร้อนประมาณ 20 ชนิด และคุณสมบัติแตกต่างกันไป ซึ่งมีสีขาวขุ่นเป็นพิเศษและน้ำพุเกลือคลอไรด์ ที่มีผลดีในการทำให้ร่างกายอบอุ่น ยังมีเรียวกังน้ำพุร้อนหลายแห่งที่แม้ไม่ได้เข้าพักก็สามารถไปแช่น้ำพุร้อนหรือแช่เท้าได้ เมื่อพูดถึงอาหาร Hakone Onsen มีอาหารน้ำพุร้อน เช่น โซบะและเต้าหู้ ซึ่งเป็นของดีประจำของที่นี่ แวะมาแช่ออนเซ็นแล้วอย่าลืมไปลองกันนะ
2.คุซัทสึ ออนเซ็น (kusatsu onsen)
Kusatsu Onsen เมืองออนเซ็นขนาดใหญ่ในจังหวัดกุนมะ มีน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในปริมาณที่มากที่สุดในญี่ปุ่น สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 3 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว ออนเซ็นที่นี่ใช้น้ำ
Gensen Kakenagashi ซึ่งหมายถึงน้ำพุร้อนที่ไม่ได้ผสมกับน้ำเพื่อปรับอุณหภูมิเลย ทำให้มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคที่ดีเยี่ยมและให้ความอบอุ่นเหมือนออนเซ็นธรรมชาติ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสามของน้ำพุร้อน ดีที่สุดของญี่ปุ่น
ไฮไลท์ของที่นี่คือ “ยูบาทาเกะ” แหล่งน้ำพุร้อนหลัก เป็นสัญลักษณ์ของ Kusatsu Onsen เนื่องจากสามารถผลิตน้ำแร่ร้อนได้มากกว่า 5,000 ลิตรต่อนาที ปกคลุมด้วยไอน้ำร้อนสีขาวคล้ายน้ำนม นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนที่ทรงพลังที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากยูบาทาเกะแล้ว ยังมีแหล่งน้ำพุร้อนอื่นๆ เช่น ชิราฮาตะ บันไดโกะ ไซโนะคาวาระ นิกาวะ และจิโซ รวมทั้งหมด 6 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีต้นกำเนิด มีคุณสมบัติต่างกัน ใครที่กำลังมองหาแหล่งออนเซ็นดีๆ มีหลายแบบให้เลือก ที่นี่ถือว่าเหมาะสมที่สุด
3.คิโนซาคิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen)
คิโนซากิออนเซ็น ออนเซ็นส่วนตัว ญี่ปุ่น ถือเป็นแหล่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของเขตคันไซ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ มีตำนานเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ที่นี่มีบรรยากาศสบายๆ ยังมีกลิ่นอายของญี่ปุ่นยุคเก่า เพราะบ้านเรือนยังเป็นบ้านไม้เรียงรายสองข้างทาง ซึ่งโอบล้อมด้วยลำคลองสายเล็กๆ คุณสมบัติของออนเซ็นที่นี่โดดเด่นในเรื่องของการรักษาบาดแผล เพราะมีส่วนประกอบของโซเดียมและแคลเซียม ว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยรักษาโรคประสาท ปวดกล้ามเนื้อ ฟกช้ำ และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารอีกด้วย และที่คิโนซากิ ออนเซ็น ยังมีอีกตำนานหนึ่งที่กล่าวว่า มีนกกระสาขาวตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและบินลงไปในบ่อน้ำพุร้อน เมื่อชาวบ้านแถวนั้นมาเห็นเข้าก็แปลกใจมาก เมื่อบาดแผลเหล่านั้นค่อยๆ จางหายไป ผู้คนก็ตระหนักเป็นครั้งแรกว่านี่คือน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถรักษาความเจ็บปวดได้ จนกลายเป็นบ่อน้ำร้อนที่มีผู้คนลงไปแช่น้ำต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
จุดเด่นของที่นี่คือออนเซ็นสาธารณะด้านนอกโรงแรมและเรียวกัง 7 แห่งที่คนมีรอยสักสามารถมาอาบน้ำได้ ทั้ง 7 แห่งเป็นออนเซ็นธรรมชาติ น้ำใสสะอาดน่าลงไปแช่มาก ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณเข้าพักที่โรงแรม คุณสามารถใช้งานได้ฟรี และแต่ละสถานที่ก็มีบรรยากาศที่แตกต่างกันไป นักท่องเที่ยวมักจะเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในชุดยูกาตะและรองเท้าเกี๊ยะที่ทำจากไม้ แช่ออนเซ็น ถ่ายรูปกับต้นหลิวที่พลิ้วไหวสวยงาม สลับไปมาทั้งวัน โดยเฉพาะตอนเย็นจะคึกคักเป็นพิเศษ
4.เกโระ ออนเซ็น (Gero Onsen)
Gero Onsen เป็นหมู่บ้านออนเซ็น ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮิดะ ตั้งอยู่ในเมือง เกโระ จังหวัดกิฟุ เป็นเมืองน้ำพุร้อนเก่าแก่
สมัยเอโดะเป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นชั้นนำของญี่ปุ่น ที่นี่มีโรงอาบน้ำสาธารณะ 3 แห่ง และมีโรงอาบน้ำสาธารณะแบบเปิดโล่งขนาดใหญ่ที่เรียกว่าโรเท็นบุโระตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮิดะใกล้กับสะพานเกโระ แต่บอกเลยว่ากลางแจ้งจริงๆ หากคุณกำลังแช่อยู่ คุณอาจหันไปเห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ มองมาที่เราสิ ของแบบนี้ต้องอยู่ที่ใจ ถ้ากล้าก็ต้องไปลองดู นอกจากนี้ยังมีบ่อแช่เท้าที่คุณสามารถแช่ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
ออนเซ็นที่นี่ยังได้รับการบอกเล่าว่าเป็นออนเซ็นประจำเทศกาลอีกด้วย เพราะแต่ละฤดูจะมีกิจกรรม มีเทศกาลให้เที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถใช้ชุดยูกาตะเดินชมทิวทัศน์ของป่า แม่น้ำฮิดะ หรือหากมาในฤดูใบไม้ผลิก็สามารถชมดอกซากุระขณะแช่ออนเซ็นได้ และทุกวันเสาร์ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมถึงสิ้นเดือนมีนาคมของทุกปี จะมีงาน “Hanabi Monogatari” ของเกโระออนเซ็นในฤดูหนาวที่จะมีการจุดดอกไม้ไฟสวยงามเต็มท้องฟ้า เปลี่ยนคืนที่มืดมิดให้เต็มไปด้วยแสงสว่างราวกับอยู่ในความฝัน
5.โนโบริเบทสึ ออนเซ็น (Noboribetsu Onsen)
ย้ายไปแช่ออนเซนทางตอนเหนือของญี่ปุ่นกัน ที่นี่ โนโบริเบทสึออนเซ็น อาจกล่าวได้ว่าเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮอกไกโด ซึ่งโนโบริเบทสึออนเซ็นเป็นเมืองบนภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮอกไกโด ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งน้ำพุร้อน เพราะที่นี่มีบ่อออนเซ็นหลายแบบ ทั้งกำมะถัน เกลือ โซเดียมไบคาร์บอเนต ฯลฯ ให้คุณเลือกแช่ได้ตามใจชอบ อีกทั้งยังมีที่พักให้เลือกหลากหลายตามต้องการ ทั้งแบบโรงแรม เรียวกัง สไตล์ญี่ปุ่น มีหลายแบบหลายราคาให้เลือก และถ้าใครอยากอาบน้ำแบบห้องน้ำสาธารณะที่นี่ก็เช่นเดียวกัน ในใจกลางเมือง
จุดที่ทำให้ที่นี่โด่งดังมากคือเป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่คุณสามารถมองเห็นน้ำพุร้อนที่พุ่งออกมาจากใต้พื้นดินได้ และยังมีบ่อน้ำพุร้อนประเภทต่างๆ ถึง 11 ประเภท ซึ่งส่วนใหญ่มีสรรพคุณในการบำรุงผิวจากแร่ธาตุธรรมชาติต่างๆ และยังช่วย ผ่อนคลายความเมื่อยล้าของร่างกายอีกด้วย ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในญี่ปุ่น เหมาะแก่การพักจากออนเซ็น เที่ยวชมทิวทัศน์ก็สามารถทำได้ เพราะในเมืองนี้หุบเขานรกเป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะยิ่งสวยงาม หรือฤดูใบไม้ร่วงก็สวยงามไม่แพ้กัน สำหรับใครที่ปวดเมื่อยเท้าก็มีบ่อให้แช่ด้วย ถ้ามีโอกาสต้องลองไม่งั้นคุณจะพลาดสิ่งดีๆ
6.ยูฟุอิน ออนเซ็น (Yufuin Onsen)
Yufuin Onsen เป็นหมู่บ้าน ออนเซนญี่ปุ่น ในเมือง Yufu จังหวัดโออิตะบนเกาะคิวชูเป็นเมืองเล็กๆแต่มีเสน่ห์ เพราะมีวิวภูเขายุฟุ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและพิพิธภัณฑ์ศิลปะ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ออนเซ็น (น้ำพุร้อน) ซึ่งที่นี่ถูกเรียกว่า “น้ำพุร้อน” เป็นที่รู้จักในฐานะสวรรค์แห่งน้ำพุร้อนเพราะเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่อุดมสมบูรณ์ถึง 852 บ่อ ทำให้ที่นี่เป็นออนเซ็นที่ใหญ่เป็นอันดับสองในญี่ปุ่น และน้ำพุที่นี่ไหลด้วยอัตรา 38,600 ลิตรต่อนาที ซึ่งสูงเป็นอันดับสามในญี่ปุ่นด้วย ประโยชน์ส่วนใหญ่ของน้ำออนเซ็นของ Yufuin Onsen ก็คือการทำให้ผิวพรรณสวยงามตามธรรมชาติ เรื่องของการรักษาความชุ่มชื้น รักษาโรคผิวหนังต่างๆ หลังแช่ ผิวเด้งเต่งตึงแน่นอน
เหตุผลที่ที่นี่เป็นที่นิยมก็เพราะเป็นเมืองที่ยังคงกลิ่นอายของชนบท ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเมืองเล็ก ๆ ที่อาจดูไม่ทันสมัยเท่าเมืองใหญ่ แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองออนเซ็นที่ดีไม่แพ้ที่อื่น สำหรับใครที่ต้องการพักค้างคืนก็มีเรียวกัง หรือโรงแรมเล็กๆ เพื่อพักผ่อน ตื่นเช้ามาเจออากาศดีๆ ทิวทัศน์สวยงามของสายน้ำและขุนเขาที่เห็นแล้วต้องชื่นใจ ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ ท้ายเมืองมีทะเลสาบและบ่อน้ำพุร้อนเปิด แต่มีออนเซ็นเพียงแห่งเดียวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวคือชิตันยุ และที่เหลือเปิดให้เฉพาะคนในท้องถิ่นเท่านั้น เป็นความผิดหวังเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรเพราะยังมี Yufuin Ryokan Sansoh Warabino ซึ่งมีบ่อออนเซ็นกลางแจ้งที่สวยงามและใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ ให้เราไปใช้บริการ อย่าลืมไปลองกันนะครับ